วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

สรุปบทที่ 2 ความหมายและประเภทของคอมพิวเตอร์
บทนำ
ศึกษาเกี่ยวกัยความหมายของคอมพิวเตอร์ ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ ประเภทของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ยุคใหม่ คอมพิวพิวเตอร์ในอนาคต ปัญหาและข้อจำกัดของการใช้งานคอมพิวเตอร์
1. ความหมายของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ (computer) เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่าน และบันทึกข้อมูลตลอดจนรับคำสั่ง เพื่อแก้ปัญหาหรือทำการทำงานที่สลับซับซ้อน แสดงผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ มีไว้สำหรับผ่อนแระงกายและสมองของมนุษย์ ความสำคัญของคอมพิวเตอร์ประการหนึ่งก็คือ ความสามารถประมวลผลข้อมูลได้อัตโนมัติตามโปรแกรมที่มนุษย์ปัอนคำสั่งให้ทำ และแสดงผลลัพธ์ออกมาทางอุปกรณ์แสดงผล โดยผลลัพธืที่ได้จากการประมวลผลคือข้อมูลหรือสารสนเทศ (Information)

2. ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
ปัจจุบันคอมพิวเตอร์สามารถนำมาเชื่อมต่อกัน เพื่อให้ผู้ที่อยู่ห่างไกลสารารถเข้ามาใช้และแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ง่าย เช่น เชื่อมต่อผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต หน่วยงานหรือบริษัทก็นำมาคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน เช่น ควบครุมและตรวจสอบสินค้าคงคลังบันทึกข้อมูลและเรียกดูประวัติของนักเรียน นักศึกษา ดูแลระบบให้บริการลูกค้า เป็นต้น
คอมพิวเตอร์มีบทบาทและความสำคัญกับชีวิตประจำวันของมนุษย์แทบทุกสายงานที่ต้องนำเอาคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งาน โดยสังเกตได้จากศัพท์ที่มีคำนำหน้าโดยใช้อักษรย่อ "E" (Electronic) มีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่น

E-Banking ธนาคารอิเล้กทรอนิกส์
E-Service บริการออนไลน์
E-Learing การเรียนการสอนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
E-Society การพัฒนาด้านสังคม
E-Gocenment การนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือสารมาใช้ประโยชน์ในการบริการ

ตัวอย่างประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ที่นิยมเอาไปใช้ในงานด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. คอมพิวเตอร์กับการใช้งานของภาครัฐ คือ การนำเอาคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งานทะเบียนราษฎร์ เช่น แจ้งเกิด ตาย ย้ายที่อยู่ เปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ หรือทำบัตรประชาชนซึ่งอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนอย่างมาก

2.คอมพิวเตอร์กับงานธุรกิจทั่วไป คือ การนำเอาคอมพิวเตอร์เตอร์เข้ามาใช้งานเพื่อประโยชน์ของการประมวลผลที่รวดเร็ว ตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้วยมือ เช่น การนำเอาโปรแกรมคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยจัดการงานในสำนักงานซึ่งโปรแกรมที่นิยมใช้กันมาที่สุดคือ Microsoft Word

3. คอมพิวเตอร์กับงานสายการบิน คือ การนำเอาระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้มาใช้เกี่ยวกับการเรื่องของการสำรองที่นั้งผู้โดยสาร วึ่งสามารถทำให้การตรวจเช็ครายการต่าง ๆ เกี่ยวกับเที่ยวบิน ข้อมูลการเดินทาง

4.คอมพิวเตอร์เกี่ยวกับงานด้านการศึกษา เรียก E-Education นำเสื่อแบบมัลติมีเดียประกอกด้วยรูปภาพเสียงพูดและใส่เทคนิคการนำเสนอ มีแบบฝึกหัดเพื่อให้ผู้เรียนสามารถที่จะฝึกหัดทบทวน

5.คอมพิวเตอร์กับธุรกิจการนำเข้าและส่งออกสินค้า เป็นการนำเอาระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการนำเข้าและการส่งออกสินค้า

6.คอมพิวเอตร์กับงานธนาคาร ช่วยด้านการบริการ เรียกกันว่า E-Banking

7.คอมพิวเตอร์กับงานวิทยาศาสตร์ ช่วยวิเคราะห์และตรวจสวบข้อมูลต่าง ๆ ทำการทดลอง วิจัยทางวิทยาศาสตร์ คำนวณ จำลองแบบ สร้างผลงานทางวิทยาศาสตร์

8.คอมพิวเตอร์กับงานการแพทย์ ช่วยวิจัยโรคและตรวจสอบอาการคนไข้ เช่น วัดคลื่นหัวใจ วัดเคลท่อนสมอง เครื่องเอกซ์เรย์ ระบบข่ายฐานข้อมูลคนไข้

ประเภทของคอมพิวเตอร์ (ลักษณะของฐานข้อมูลมี 3 ประเภท)
1.อนาล็อกคอมพิวเตอร์ ใช้กับงานเฉพราะอย่าง ใช้หลักการวัด โดยใช้ค่าทางคณิตศาสตร์รับข้อมูล

ไม่สามารถเก็บข้อมูลได้มาก ได้แก่ เครื่องวัดสายตา ตรวจคลื่นสมอง
2.ดิจิตอลคอมพิวเตอร์ ทำงานโดยใช้หลักการนับ เก็บข้อมูลเป็นเลขฐาน 2 มีความละเอียดมากกว่าแบบอนาล็อก เก็บข้อมูลได้มากกว่า
3.ไฮบริดคอมพิวเตอร์ รับข้อมูลได้ทั้ง 2 แบบ อนาล็อกและดิจิตอล มาผสมกัน นำมาใช้ทางวิทยาศาสตร์ ควบคุมกระบวนการทางอุตสาหกรรม

คอมพิวเตอร์แบ่งตามขนาดและความสามารถ มี 5 ประเภท

1.ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ประมวลผลสูง ราคาแพง มีสมรรถณะสูง ประมวลผลพร้อมกันภายใน 1 นาที ส่วนใหญ่ใช้ในงานด้านวอทยาศาสตร์ โดยเฉพราะการสร้างโมเดลของคณิตศาสตร์ ที่เรียกว่า ซิมูเลชั่น (Simulation) สำรวจ แผ่นดินไหว แหล่งน้ำมัน พยากรณือากาศ ประเทศไทยมีซุปเปอรืคอมพิวเตอร์ที่ Nectec มี 2 เครื่อง
2.เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ขนาดใหญ่ ทำงานร่วมกับอุปกรณ์หลาย ๆ อย่าง สามารถเก็บข้อมูลที่มีปริมาณมาก ๆ เช่น ระบบจองที่นั่งสายการบิน ระบบเอทีเอ็ม มีผู้ใช้หลายคนในเวลาเดี๋ยวกัน หรือ การประมวลผลแบบเวลาเรียก Time sharing
3.มินิคอมพิวเตอร์ สร้างขึ้นเพื่อใช้กับงานเฉพราะทาง ส่วนมากใช้กับงานอุตสาหกรรม
4.ไมโคตอมพิวเตอร์ เป็นที่นิยมใช้กันมากที่สุด ราคาถูก หรือ เรียกคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เรียกสั้น ๆ ว่า พีซี เช่น โน๊ตบุ๊ค แท็บเล็ตพีซี
5.คอมพิวเตอร์มือถือ บริษัทแอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์ผลิตคอมพิวเตอร์แบบมือถือชื่อว่า นิวตัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ บริษัท 3 com เชี่ยวชาญด้านระบบเครือข่าย ผลิตตอมพิวเตอร์มือถือชื่อ ปาล์ม เป็นคอมพิวเตอร์มือถือขนาดเล็ก มีหน่วยความจำไม่มาก ประสบความสำเร็จมาก ต่อไมโคซอฟต์ผลิตวินโดวส์ซีอี CE
และ ผลิตตอมพิวเตอร์ HP คอมแพคคาสิโอ คอมพิวเตอร์มือถือ ที่ชื่อว่า พ็อกเก็ตพีซี ประโยชน์ จัดการข้อมูลประจำวัน จดบันทึกนัดหมาย เป็นไดอารีส่วนตัว จดที่อยู่ นามบัตร ตารางการทำงาน เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต รับส่งอีเมล

คอมพิวเตอร์ในอนาคต
คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ทำงานแทนมนุษย์ มนุษย์เรียกคอมพิวเตอร์ว่าสมองกล เพราะคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องจักรที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น หุ่นยนต์หรื่อโรบอต (Robot)
คือเครื่องจักรกลที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อนำหุ่นยนต์มาช่วยในการทางแพทย์
ความสามารถในทางวิจัย หุ่นยนต์สามารถทำการสำรวจงานวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์ร่วมกับมนุษย์ เช่น งานสำรวจใต้น้ำ สำรวจท้องทะเลหรือมหาสมุทร

ปัญหาและข้อจำกัดของการใช้งานคอมพิวเตอร์
การนำคอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ใช้งานต่าง ๆ ช่วยให้การทำงานเร็วและสะดวก สามารถแบ่งภาระงานของมนุษย์ได้อย่างมาก
1.คอมพิวเตอร์ไม่สามารถเข้ามาแทนมนุษย์ได้ 100 % เพราะมนุษย์เป็นคนสร้างหุ่นยนต์ขุ้นมาและเป็นคนออกคำสั่งคอมพิวเตอร์ทำงานได้อยู่ดี
2.แม้จะมีความสามารถในเรื่องของการคิดและตัดสินใจแทนมนุษย์ แต่เป็นบางเรื่องบางกรณีเท่านั้น
3.ได้รับข้อมูลมาอย่างไรก็ประมวณผลไปตามนั้น

ปัญหาของการใช้งานคอมพิวเตอร์ ที่พบมากที่สุดก็คือ
1.ความรู้ไม่ทันเทคโนโลยี ของผู้ที่ขาดทักษะบางประการ เช่น ปัยหาไวรัสที่แพร่กระจาย
2.ปัญหาอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ที่เมมากขึ้น
3.มนุษย์ต้องรู้จักเรื่องใช้งานให้ถูกวิธี
4.ติดตามข่าวสารเทคโนโลยีอย่างสม่ำเสมอ
5.ตระหนักถึงจริยธรรมในการใช้งานและไม่สร้างความเสียหายแก่ผู้อื่น

วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

(1).ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งแต่ละคำมีความหมายดังนี้

เทคโนโลยีสารสนเทศ(Information Technotogy) เรียกสั้น ๆ ว่า ไอที (IT) หรือเรียกสั้นๆ ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and communication Technology) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า ไอทีซี (IcT) ประกอบด้วยคำว่า เทคโนโลยี และคำว่า สารสนเทศ นำมารวมกัน ซึ่งแต่ละคำมีความหมายดังนี้

1.1เทคโนโลยี หมายถึงสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่อช่วยในการทำงานหรือแก้ปัญหาต่างๆ

1.2 สารสนเทศ หมายถึงข่าวสารที่ได้รับจากข้อมูลดิบจากแหล่งต่างๆนำมาคำนวณทางสถิติหรือผ่ายกระบวนการประมวลผลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์

1.3 เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึงการประยุกต์เอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาจัดการสารสนเทศที่ต้องการโดยอาสัยเครื่องทางเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น เทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ ตลอดจนกระบวนการดำเนินงานสารสนเทศ ตั้งแต่การเก็บรวบนวมข้อมูล การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ การทำสำเนา และการสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อให้ได้สารสนเทศ และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้



(2). บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศความก้าวหน้าทางด้านวิทยาสาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกความสบายต่อการดำรงชีวิตเป็นอันมาก อาทิเช่น



1.เทคโนโลยีช่วยเสริมปัจจัยพื้นฐาน เช่น การเพราะปลูก ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่มห่ม ยารักษาโรค

2.เทคโนโลยีช่วยให้มนุษย์มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เช่น สร้างที่พักอาศัยที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน เป็นต้น

3.เทคโนโลยีช่วยทำให้การผลิตสินค้าและบริการต่างๆที่ตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้มากขึ้น เช่น การดูสินค้าหรือราคา เป็นต้น

4.เทคโนโลยีช่วยทำให้ระบบการผลิต สามารถผลิตสินค้าได้จำนวนมาก มีราคาถูกลง และได้สินค้าที่มีคุณภาพ

5.เทคโนโลยีช่วยทำให้การติต่อสื่อสารเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วการสื่อสารที่เชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึงให้ประชากรในโลกสามารถติดต่อสื่อสารและรับฟังข่าวสารจากทั่วทุกมุม

(3).องค์ประกอบของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศประกอบขึ้นด้วยเทคโนโลยีสองสาขา คือ
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสื่อสารและคมนาคม โดยมีรายละเอียดแต่ละเทคโนโลยีดังต่อไปนี้



1.เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องทางอิเล็กทรอนิกส์ประกอบด้วยอุปกรณืต่างๆต่อเชื่อกันเรียกว่า "ฮาร์ดแวร์" จำทำงานร่วมกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า "ซอฟแวร์" ประกอบด้วย
1.1 ฮาร์ดแวร์ ประกอกด้วย 5 ส่น คือ
1. อุปกรณ์รับข้อมูล
2. อุปกรณ์แสดงผล
3.หน่วยประมวลผลกราง
4.หน่วยความจำหลัก

5. ซอฟต์แวร์
5.1 ซอฟต์แวร์ระบบ มีหน้าที่ควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ระบบสามารถแบ่งเป็น 3 ชนิดคือ อุปกรณ์ต่อพ่วงกับคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างเช่น
- โปรแกรมระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ (UNIX)
- โปรแกรมระบบปฏิบัติการ (DOS)
- โปรมแกรมระบบปฏิบัติการ windows XP


2.เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมใช้ในการติดต่อสื่อสาร รับส่งข้อมูลจากที่ไกลๆเป็นการส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ ช่วยในการเผยแพร่ข้อมูลหรือสารสนเทศไปยังผู้ใช้หลายอื่นๆเป็นไปยังสะดวกรวดเร็ว

(4).ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศเนื่องจากองค์ประกอบต่างๆของเทคโนโลยีสารสนเทศ มีการพัฒนาให้มีความสามารถและประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้องค์การธุรกิจต้องนำความสามารถและความรวดเร็วของเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยในการดำเนินงานด้านต่างๆ เช่น



1.ช่วยเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพในการทำงาน อีกทั้งยังช่วยในการลดต้นทุนในการผลิต

2.ช่วยจัดระบบสารสนเทศที่มีมากมายให้มีระเบียบ ทำให้สะดวกรวดเร็ว และง่ายต่อการจัดเก็บและค้นหาข้อมูล

3.ช่วยให้การสื่อสารมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น ลดปัญหาเรื่องระยะเวลา โดยนำระบบเครือข่ายและโทรศัพท์เข้ามาช่วย เช่น ระบบอินเตอร์เน็ต

4.เทคโนโลยีสารสนเทศบางอย่างเป็นอัตโนมัติ สามารถเข้าถึงสารสนเทศได้จาดกแหล่งอื่น เมื่อใดก็ได้

5.ทำให้มีการกระจายโอกาศการเรียนรู้ เช่น มีการใช้ระบบการเรียนการสอนทางไกล



5.การเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศการเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถจำแนกออกเป็น2หัวข้อ คือ



1.การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบัน คือการนำเทคโนดลยีสารสนเทศมาใช้ในธุรกิจ ด้านการติดต่อสื่อสาร ด้านการรับส่งข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายดินเตอร์เน็ต

2.แนวโน้มเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต6.ประโยชน์ของเทคดนโลยสารสนเทศ1.ช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

3.ช่วยให้เกิดความเท่าเทียมกันในสังคมเทคโนโลยีสารสนเทศที่กระจายไปทั่วทุกแห่ง3.ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ

4.ประโยชน์ต่อการป้องกันประเทศ

ใบงานที่ 11.ยกตัวอย่างการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้งานด้านต่างๆในปัจจุบัน- นำเอาเทคโนโลยีระบบสื่อสารมาประยุกต์ใช้กับเครื่องอำนวยสะดวกต่างๆ
เช่น ควบคุมการเปิดปิดไฟฟ้าในบ้านผ่านโทรศัพท์ ควบคุมระบบปรับอากาศ ตรวจสอบหมายเลขเรียกเข้าภายในบ้าน

2.อธิบายการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศในงานด้านต่างๆ- การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยในการผลิตสินค้าทำให้สามารถผลิตสินค้าได้ในจำนวนมากและมีราคาที่ถูกลงแบบฝึกหัดบทที่ 1ตอนที่11.ความหมายของคำว่า "เทคโนโลยี"(Technologyคือ- สิ่งที่มนุษย์พัฒนาขึ้น เพื่อช่วยในการทำงานหรือแก้ปัญหาต่างๆ เช่น อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุ

2.ความหมายของคำว่า "สารสนเทศ" (Information)คือ- ข่าวสารที่ได้จากข้อมูลดิบจากแหล่งต่างๆนำมาคำนวณทางสถิติหรือผ่านกระบวนการประมวลผลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ

3.ความหมายของคำว่า "เทคโนดลยีสารสนเทศ"(Information Technology)คือ- การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาจัดการสารสนเทศที่ต้องการดดยอาศัยเครื่องมือทางเทคโนโลยีใหม่ เช่น เทคโนดลยีด้านคอมพิวเตอร์

4 .ความหมายของคำว่า "เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์" คือ- เป็นเครื่องมือทางอิเกทรอนิกส์ที่สามารถจดจำข้อมูลต่างๆ และปฎิบัติตามคำสั่งเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ต่อเชื่อกันเรียกว่า ฮาร์ดแวร์ ซึ่งแวร์แวร์จะทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์

5 .ความหมายของคำว่า "เทคโนโลยีการสื่อสารและโทรคมนาคม" คือ- การเผยแพร่และแลกเปลี่ยนสารสนเทศ ให้ง่ายมากขึ้น และสามารถกระจายข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง ครบถ้วนและทันเหตุการณ์

6 .องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้แก่-เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีโทรคมนาคม

7 .ตัวอย่างประโยชน์ที่ได้รับจากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใข้ในองค์กร คือ- 1.ช่วยเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพในการทำงาน2.ช่วยจัดระบบสารสนเทศที่มีอยู่มากให้เป็นระบบ3.ช่วยให้การสื่อสารมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น

8 .ตัวอย่างโปรแกรมปฏิบัติการ (อย่างน้อย 3 โปรแกรม) ได้แก่-1.โปรแกรมปฏิบัติการยูนิกซ์2.โปรแกรมปฏิบัติการ (DOS)3.โปรแกรมปฏิบัติการ Windows XP

9 .ยกตัวอย่างแนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต คือ- อาจมีการผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ประกอบจากโมเลกุลที่มีความเร็วสูงสุด ซึ่งมีโครงสร้างแบบคริสตัล และมีขนาดเล็กมากจนสามารถพกติดตัวได้ โดยใช้ไฟฟ้าน้อยมาก

10 .ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อสิ่งแวดล้อม คือ-ใช้เทคโนโลยีในการเก็บข้อมูลเช่นใช้ภาพถ่ายทางอากาศจากดาวเทียมตรวจสอบสภาพการถูกทำลาย การตรวจสอบเขตป่าสงวนด้วยเครื่องบอกตำแหน่งผ่านดาวเทียม ทำให้ทราบว่าที่ใดอยู่ในเขตพื้นที่สงวน



ตอนที่2



1.ข้อใดคือความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ - ง.ถูกทุกข้อ

2.ข้อใดคือกระบวนการดำเนินงานสารสนเทศ - ค.การสื่อสาร

3.ข้อใด ไมใช่ อุปกรณ์ใช้สำหรับประมวลผล -ก.จอภาพแบบ LCD

4.อุปกรณ์ใดที่ใช้สำหรับทำสำเนา -ง.ถูกทั้งข้อ ก. และ ค.

5.การสื่อสารโทรคมนาคมหมายถึงข้อใด -ง.ถูกทุกข้อ

6.เครื่องมือที่สำคัญ ในการเก็บบันทึกข้อมูลและการประมวลผลข้อมูล

-ข.เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์7.ข้อใดทำให้สังคมยุคเกษตรกรรมเปลี่ยนมาเป็นยุคอุตสาหกรรมและยุคของข้อมูลข่าวสาร-ก.เทคโนโลยีการสื่อสารและโทรคมนาคม

8.ข้อใดคือผลกระทบของเทคโนโลยีใหม่ๆด้านลบ - ง.ถูกทุกข้อ

9.กระทรวงไอซีทีมีชื่อเต็มว่าอย่างไร -ก. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

10.ข้อใดคือหน้าที่ของกระทรวงไอซีที -ค.ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.

11.บทบาทเทคโนโลยีช่วยเสริมปัจจัยพื้นฐาน - ง.ถูกทุกข้อ



12.องค์ประกอบใดคือเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ -ง.ถูกทั้งข้อ ข. และ ค.



13.เทคโนโลยีสารสนเทศมีการใช้งานกี่รูปแบบ -ง.6รูปแบบ14.เทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce)หมายถึงข้อใด-

ก. การประกอบธุรกรรมทางการค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์



15.ข้อใดคือประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศ-

ง. ถูกทุกข้อ